โทรหาเรา: 032 330 031
ฝ่ายขาย: 061 178 7814
ออฟฟิศ: 065 550 3311

อีเมลเรา

forklift.nfl@gmail.com

Official: @NFL888
ฝ่ายขาย: 061 178 7814
ออฟฟิศ: 065 550 3311

มีคำถามเพิ่มเติม? ติดต่อเราวันนี้

สาระความรู้

สีเขียว สีเหลือง น่ารัก สนุกสนาน เปิดเทอม โรงเรียน Facebook โพสต์

 

💚 5ข้อปฏิบัติ เพื่อความปลอดภัย💯ในการขับรถโฟล์คลิฟท์ 💨

 
⚠️1. ตรวจสอบยางรถและระดับของน้ำมันเชื้อเพลิง
⚠️2. ทดสอบระบบเบรค,ไฟ, แตรรถ, พวงมาลัย
⚠️3. ตรวจดูหม้อน้ำและการรั่วไหลของน้ำหรือน้ำมันต่างๆ
⚠️4. ตรวจเช็คงาของรถยกให้อยู่ในแนวตรงและไม่มีการชำรุดเสียหาย
⚠️5. สังเกตสิ่งกีดขวางที่อยู่รอบด้านเสมอก่อนขับ
 
 
👉กรณีตรวจสอบตรวจสภาพก่อนใช้งานประจำวัน และพบความผิดปกติของรถโฟล์คลิฟท์ ให้แจ้งหัวหน้างานทันที การตัดสินใจในการหยุดหรือให้ใช้งานต่อด้วย ให้อยู่ในดุลยพินิจของหัวหน้างาน
Chalk 154720 640
441575
📢 ข้อควรปฏิบัติ :
☑️ สวมอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยที่เหมาะสม เช่น หมวกนิรภัย รองเท้านิรภัย เสื้อสะท้อนแสง
☑️ ตรวจสอบรถยกทุกครั้ง เมื่อมีการเปลี่ยนกะการทำงาน
☑️ รายงานข้อบกพร่องของรถยกต่อหัวหน้างานทันทีที่ตรวจพบ
☑️ คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งและตลอดเวลาที่ขับรถยก
☑️ ตรวจสอบให้มั่นใจว่าไม่มีสิ่งกีดขวางบริเวณทางเดินรถ
☑️ ตรวจสอบพื้นที่รอบๆ ก่อนการขับรถยกออกไป
☑️ ขับรถยกด้วยความเร็วที่เหมาะสมกับสถานที่ และสิ่งของที่บรรทุก และตามที่กำหนดไว้
☑️ ขับรถยกโดยการลดงาลงต่ำ ตามระยะที่เหมาะสม
☑️ ระวังคนเดินเท้า
☑️ หลีกเลี่ยงการหยุดรถอย่างกะทันหัน และเบรกอย่างรุนแรง
☑️ ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อขับบนพื้นที่เปียก ลื่น
📢 ข้อห้าม :
❌ ห้ามขับรถยกเด็ดขาด หากไม่ได้รับการฝึกอบรมตามที่กฎหมายกำหนด และไม่ได้รับอนุญาต
❌ ใช้รถยกหรืออุปกรณ์ในการทำงานโดยไม่มีความรู้
❌ ควบคุมการทำงานของรถยกโดยไม่ได้อยู่บนตัวรถ
❌ สตาร์ทและหยุดรถกะทันหัน
❌ เลี้ยวรถยกอย่างกะทันหัน หรือด้วยความเร็ว
❌ ขับรถยกบนพื้นผิวที่ไม่เรียบ
❌ขับรถยกผ่านสายไฟ โดยไม่มีมาตรการป้องกัน
❌ ซ่อมบำรุงรถยกโดยไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง
❌ ขับรถยกเมื่ออยู่ในสภาพมึนเมา แอลกอฮอล์หรือสารเสพติด
❌ ใช้อุปกรณ์สื่อสารหรืออุปกรณ์พกพาอื่นๆ ในขณะขับรถยก
Chalk 154720 640

การเลือกรถโฟล์คลิฟท์ให้เหมาะกับงานของคุณ

📌 การใช้งานกลางแจ้งหรืออาคารเปิด
รถโฟล์คลิฟท์ที่เหมาะสม : รถโฟล์คลิฟท์เครืองยนต์ดีเซล และ รถโฟล์คลิฟท์เครื่องยนต์เบนซิน/LPG
➡️ เนื่องจากมีความทนต่อสภาพอากาศกลางแจ้ง สามารถกันน้ำได้ในระดับหนึ่ง แต่เนื่องจากมีเขม่าควันมาก ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานภายในอาคารหรือภายในคลังสินค้า เพราะจะส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมการทำงาน
 
📌 การใช้งานภายในอาคาร ภายในคลังสินค้า
รถโฟล์คลิฟท์ที่เหมาะสม : รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า
➡️ เนื่องจากมีข้อดีที่เครื่องยนต์เสียงเงียบ ไม่ก่อเขม่าควัน ทำให้สามารถใช้ทำงานในอาคารได้อย่างดี แต่หากจำเป็นต้องใช้งานรถโฟล์คลิฟท์ตลอดเวลา ต้องมีแบตเตอรี่สำรองเพื่อทำให้การทำงานดำเนินเป็นไปอย่างราบรื่น
 
📌 การใช้งานภายในอาคาร ภายในคลังสินค้าที่ใช้ชั้นวางสินค้าขนาดสูง หรือห้องเย็น
รถโฟล์คลิฟท์ที่เหมาะสม : รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าแบบยืนขับ
➡️ เนื่องจากมีขนาดกะทัดรัด เคลื่อนที่คล่องตัว และเสารถยกสามารถยกสูงได้จนถึง 13 เมตร เป็นรถยกไฟฟ้าทำให้ไม่ก่อเขม่าควัน ไอเสียออกมา สามารถปฏิบัติงานในห้องเย็นได้อย่างดี โดยการที่มีแบบยืนขับและนั่งขับสามารถเลือกได้ตามความถนัดของผู้ใช้งานหรือตามความเหมาะสมกับพื้นที่หน้างาน
White And Black Corporate Architecture Presentation (1)
Chalk 154720 640

ข้อแตกต่างระหว่างแบตเตอรี่ตะกั่วกรด & แบตเตอรี่ลิเธียม

ข้อแตกต่างระหว่างแบตเตอรี่ธรรมดา & แบตเตอรี่ลิเธียม
Chalk 154720 640

⚡️เทคนิคดูแลแบตเตอรี่รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า⚡️

🧡 4 วิธีดูแลแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ พร้อมข้อระวังระหว่างการดูแล
📌 ห้ามสัมผัสขั้วของแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า
📌 ควรเชื่อมต่อแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าอย่างถูกต้อง
📌 ห้ามวางโลหะบริเวณขั้วแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า
📌 เก็บแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ ให้ห่างจากประกายไฟ
 
🧡 รวมข้อห้ามของการใช้งานแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ ที่คุณควรรู้
📌 ไม่ควรใช้งานรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าจนแบตหมด (เครื่องดับ) เพราะจะทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่สั้นลง
📌 ห้ามใช้ผ้าแห้ง และ ผ้าเส้นใยเคมี ทำความสะอาดพื้นผิวของแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า เพราะเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้จากไฟฟ้าสถิต
📌 สารละลายอิเล็กโทรไลต์ของแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า เป็นกรดกำมะถันเจือจาง ไม่ควรสัมผัสโดยตรง และไม่ควรเททิ้งโดยไร้การจัดการดูแลเป็นอันขาด
📌 ห้ามล้างรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าในขณะที่ติดเครื่องอยู่เด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ส่งผลเสียต่อทั้งแบตเตอรี่และวงจรภายในต่าง ๆ ของรถได้
📌 ห้ามดำเนินการใด ๆ กับแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า โดยไม่สวมเครื่องป้องกันโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็น ถุงมือ รองเท้าเซฟตี้ แว่นตา เป็นต้น
 
🙏ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก multixthailand.com
 
เทคนิค
Chalk 154720 640

ปัจจัยอะไรบ้าง?? ที่ใช้ในการตัดสินใจ
ว่าคุณควรเลิกซ่อมรถโฟล์คลิฟท์ แล้วซื้อรถโฟล์คลิฟท์คันใหม่แทน

เมื่อใด
📢 1. ชั่วโมงการทำงานและปริมาณงาน
หลายคนอาจจะไม่ทราบว่ารถโฟล์คลิฟท์มีชั่วโมงการใช้งานเฉลี่ยที่ 10,000 ชั่วโมง ซึ่งหากเป็นการใช้งานทุกวันต่อเนื่องก็มีระยะเวลานานราว 5-7 ปี ดังนั้น หากครบกำหนดแล้ว ก็ควรเปลี่ยนรถคันใหม่จะดีกว่า เพราะการฝืนซ่อมอย่างต่อเนื่องนับจากนี้ไปอาจเกิดภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินจำเป็น
📢 2. เครื่องยนต์ ยี่ห้อและรุ่นของรถยก
เช่น รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า มักมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า การที่ไม่มีเครื่องยนต์และโครงสร้างที่ซับซ้อน ทำให้มีโอกาสสูงมากที่จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
📢 3. สภาวะแวดล้อมในการใช้งาน
ความร้อนจัดและความเย็นจัด ส่งผลโดยตรงให้อายุการใช้งานของรถโฟล์คลิฟท์สั้นลง เช่น รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า หากใช้ในสภาวะที่มีความร้อนค่อนข้างสูง อาจส่งผลโดยตรงในลักษะที่ทำให้แบตเตอรี่สึกหรอหรือเสื่อมลง หากรถโฟล์คลิฟท์และตัวแบตไม่มีคุณภาพมากพอ ดังนั้นในสภาวะเช่นนี้การใช้รถโฟล์คลิฟท์สันดาปภายในเช่น รถโฟล์คลิฟท์ดีเซล ดูจะเหมาะสมกว่า
📢 4. ความปลอดภัย
หากระบบควบคุมหรือลักษณะตำแหน่งที่นั่งที่ไม่สบาย จะส่งผลระยะยาวทำให้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้ออักเสบระหว่างการทำงาน ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและเสี่ยงต่ออุบัติเหตุมากขึ้นด้วย การเปลี่ยนเป็นรถโฟล์คลิฟท์รุ่นใหม่ที่ออกแบบที่นั่งตามหลักสรีรศาสตร์ เรียกได้ว่ามีความคุ้มค่า ช่วยป้องกันการบาดเจ็บเรื้อรัง ลดอันตรายจากอุบัติเหตุในอนาคตได้
⚙️ หากคุณกำลังเจอปัญหาเหล่านี้ ซื้อรถโฟล์คลิฟท์คันใหม่จะเหมาะสมกว่า
📌ค่าซ่อมที่แพงไม่คุ้มค่า
หากการซ่อมแซมรถโฟล์คลิฟท์ที่คุณใช้อยู่ เป็นการเปลี่ยนชิ้นส่วนหลัก เช่น ระบบส่งกำลังหรือเครื่องยนต์ ซึ่งนับว่ามีค่าใช้จ่ายสูง คำนวณดูแล้วไม่คุ้มเมื่อเทียบกับการจ่ายเงินซื้อรถโฟล์คลิฟท์คันใหม่ เราแนะนำให้คุณเปลี่ยนไปใช้รถโฟล์คลิฟท์คันใหม่จะดีกว่า
📌 การใช้รถโฟล์คลิฟท์คันเก่า ทำให้ทุกคนในพื้นที่เสี่ยงอันตราย
ตัวอย่างเช่น ระบบตรวจสอบแบบเซ็นเซอร์ที่ตรวจจับแรงกระแทก ระบบแจ้งเตือนการชนให้หยุดเคลื่อนรถ ซึ่งรถโฟล์คลิฟท์รุ่นเก่า มักไม่ค่อยมีฟังก์ชั่นนี้
 
– ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก goodrichforklift999 .com 🙏
Chalk 154720 640

เรื่องของล้อ.. ⚙ ยางตัน “รถโฟล์คลิฟท์” 🚜

Black

🚧 วิธีอ่านขนาดล้อยางตันโฟล์คลิฟท์

✔ แก้มยาง : แสดงข้อมูลของยางที่สำคัญ เช่น ยี่ห้อยาง ขนาด ประเภทยาง และเส้นสึก
✔ ดอกยาง : ยางยกที่สัมผัสกับพื้น
✔ ขอบ : ส่วนโลหะของล้อที่ยึดยางให้เข้าที่
 

🚧 การอ่านขนาดยางตันรถโฟล์คลิฟท์

คุณสามารถสังเกตตรงบริเวณแก้มยางจะระบุขนาดของยางรถโฟล์คลิฟท์ หากคุณไม่เห็นตรงบริเวณนั้น สามารถตรวจสอบคู่มือการใช้งานหรือติดต่อตัวแทนจำหน่ายรถโฟล์คลิฟท์ของคุณพร้อมแจ้งรุ่น และขนาดยางจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับประเภทของยางรถโฟล์คลิฟท์ที่คุณใช้งาน
 
✔ขนาดยางตันรถโฟล์คลิฟท์แบบกันกระแทก
จะระบุเป็น เส้นศูนย์กลางภายนอก (Outer Diameter) x ความกว้าง (Width) x เส้นผ่านศูนย์กลางขอบ (Rim Diameter)
ตัวอย่าง : 16 x 6 x 10.5
 
✔ขนาดยางลมหรือยางอัดลม
จะระบุเป็น กว้าง (Width) x ขอบ (Rim Diameter)
ตัวอย่าง : 6.5 x 10

🚧 วิธีเลือกยางตันรถโฟล์คลิฟท์ที่เหมาะสม คำนึงถึงการใช้งาน สภาพแวดล้อมการทำงาน

✔ การใช้งาน
ระยะเวลาการใช้งาน ชั่วโมงที่ใส่ยางตันรถโฟล์คลิฟท์จะแตกต่าง หากคุณใช้รถโฟล์คลิฟท์เป็นเวลา 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ อาจเป็นไปได้ว่ายางจะมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าที่คุณใช้ 50 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
✔ สภาพพื้นขณะใช้งาน
ยางตันรถโฟล์คลิฟท์เหมาะกับคอนกรีตขัดมัน เนื่องจากพื้นผิวขรุขระ พื้นดินจะเกิดความเสียดทานมากกว่าทำให้อายุยางของคุณสั้นลง ไม่ปลอดภัยสำหรับการทำงาน ผู้ปฏิบัติงานอาจทำงานได้ไม่สะดวก แต่สำหรับการใช้งานบริเวณที่เป็นลานไม้ แหล่งรีไซเคิลอาจลำบากในการเลี่ยงเศษซาก ยางลมแข็งจึงเป็นตัวเลือกที่ทนทาน แต่ทางที่ดีควรเลี่ยงวิ่งทับเศษขยะหากทำได้
นอกจากเรื่องสภาพพื้นแล้ว สภาพอากาศ ความชื้นนั้นก็สำคัญ อาจมีน้ำเกาะพื้นผิวทำให้ยางหมุนมากขึ้นส่งผลต่อการสึกหรอ และเรื่องน้ำหนักบรรทุกก็ส่งผลต่อยางด้วยเช่นกัน ขณะการใช้รถโฟล์คลิฟท์โดยไม่บรรทุกน้ำหนักใดๆ เครื่องถ่วงน้ำหนักจะกดลงบนยางบังคับเลี้ยว ทำให้เกิดการสึกหรอเร็วขึ้น
✔ ประเภทยาง
ยางรถโฟล์คลิฟท์ประเภทยางลมมักสึกหรอ เสื่อมสภาพง่ายกว่ายางชนิดอื่น และยังสามารถเจาะได้ ทำให้ยางแบนต้องทำการซ่อม ควรหมั่นตรวจเช็คแรงดันลม ยางลมแข็งจะมีความทนทานยืดหยุ่นสูง หากลมอ่อนยางจะสัมผัสพื้นผิวมากขึ้นทำให้สึกหรอมากขึ้น เมื่อเป็นยางประเภทกดทับ ซึ่งเป็นยางโพลียูรีเทนจะมีอายุการใช้งานยาวนานกว่ายางกันกระแทก
✔ พฤติกรรมของผู้ปฏิบัติงาน
การสตาร์ท การหมุนยาง และการหยุดอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วที่มากเกินไป การเข้าโค้งกะทันหัน เหล่านี้เป็นปัจจัยที่ลดอายุการใช้งานยางตันรถโฟล์คลิฟท์

🚧 เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนยางตันรถโฟล์คลิฟท์ของคุณ

ระยะเวลาในการเปลี่ยนอาจจะอ้างอิงจากอายุการใช้งาน ลักษณะการใช้งาน โดยหมั่นตรวจเช็คเมื่อยางสึกหรือชำรุดต้องทำการเปลี่ยนยาง
 
⚙️ บริษัท นครปฐม โฟร์คลิฟท์ (888) จำกัด เราก็มีขายครับ “ยางรถโฟร์คลิฟท์” ยางตันใหม่ / ยางตันหล่อ ⚙️
🛠 มีบริการ เปลี่ยน – อัดยาง ครบวงจร
Chalk 154720 640
Architecture Visualization Of An Empty Warehouse, 3d Rendering
Chalk 154720 640

หากรถโฟล์คลิฟท์ที่ใช้ เกิดเครื่องยนต์ร้อนจัด จะทำอย่างไรดี❓

หากคุณใช้งานรถโฟล์คลิฟท์อยู่ แล้วรู้สึกว่าเครื่องยนต์เกิดร้อนจัดขึ้นมา หรือร้อนมากกว่าที่ควรจะเป็น อาจเกิดความผิดปกติขึ้นได้ หากเป็นเช่นนี้ ควรทำการแก้ไขให้เร็วที่สุด เพราะอาจทำให้เกิดค่าใช้จ่ายมหาศาลตามมา หรืออาจเกิดการลุกไหม้ของรถได้เลยทีเดียว
 

🔥 ปัจจัยในการเกิดเครื่องร้อน

1⃣ น้ำในหม้อน้ำลดระดับลงหรือหายไปบางส่วน  เป็นไปได้หลายสาเหตุ เช่น ฝาหม้อน้ำที่หมดสภาพแล้ว น้ำก็ซึมออกได้ วาล์วน้ำ หากเสียน้ำจะไม่ไหลเวียนเพื่อนำความร้อนไประบายออกที่หม้อน้ำ ปั๊มน้ำรั่ว น้ำอาจจะค่อยๆ หายไปจากระบบ

2⃣ วิ่งแล้วดับ เครื่องดับเอง  ขณะขับรถควรหมั่น สังเกตเข็มวัดความร้อน หากผิดปกติต้องหยุด อย่าให้เครื่องดับเอง จะอันตรายมาก

3⃣ มีบางอย่างมาปิดหน้าหม้อน้ำขณะวิ่ง  หากเจอถุงพลาสติก หรือเศษกระดาษในบริเวณที่ใช้งานลอยอยู่แถวๆ หน้ารถ ต้องรีบสังเกตเข็มวัดความร้อน ว่าผิดปกติหรือไม่ เพราะอาจจะไปติดอยู่ที่หน้ารถได้
 
นอกจากนี้ ยังอาจเกิดขึ้นได้จากอีกหลายสาเหตุ เช่น การที่วาล์วน้ำไม่ทำงาน โดนลูกหินจากรถใหญ่ดีดเข้าหม้อน้ำ พัดลมไม่ทำงาน ฝาหม้อน้ำเสื่อมสภาพ สปริงเสีย หรือขับใช้งานเกียร์ต่ำติดต่อกันนานๆ ดังนั้น ควรหมั่นตรวจดูอุณหภูมิความร้อนที่เกิดขึ้น เพื่อแก้ไขได้ทันท่วงที

⛽ การตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์

การใช้งานรถโฟล์คลิฟท์นั้น เป็นการใช้งานอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน และไม่ค่อยได้หยุดพัก ดังนั้น จึงอาจเสื่อมสภาพหรือเกิดความชำรุดเสียหายขึ้นได้เสมอ นอกจากการตรวจเช็ค และซ่อมบำรุงรักษาในส่วนต่างๆ เครื่องยนต์ ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนรถก็เป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้
📢 ซึ่งการตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ สามารถทำได้ดังนี้
✔ เปิดฝาหม้อน้ำทิ้งไว้ก่อน
✔ สตาร์ทรถ แล้วสังเกตดูว่าสตาร์ทติดง่ายหรือไม่
✔ เมื่อเครื่องร้อนให้ดูว่ามีฟองอากาศออกจากฝาหม้อน้ำหรือไม่ หากมีแสดงว่าเครื่องเริ่มหลวม หรือเคยมีปัญหา
✔ ดึงที่วัดน้ำมันเครื่องออกมาดูว่ามีควันขาวลอยออกมาหรือมีละลองน้ำหรือไม่ ถ้ามีก็แสดงว่าปะเก็นรั่ว
✔ ฟังเสียงสายพาน เสียงลูกรอก เสียงดังผิดปกติหรือไม่ เสียงเครื่องควรจะเงียบและทำงานเรียบ ไม่มีสะดุด
✔ ดูปลายท่อ มีควันขาว กลิ่นน้ำมันเหม็นไหม้ มีละอองน้ำมันออกมาด้วยหรือไม่ ถ้ามีก็แสดงว่า ภายในเครื่องมีปัญหา
347798
เมื่อรถที่กำลังใช้งานเกิดร้อนผิดปกติ ควรหยุดทำการแก้ไขตรวจสอบทันที การตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ก็ช่วยให้ใช้รถได้อย่างเต็มสมรรถนะเท่านั้น และป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
 
🙏 ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก Cr : thaiforkliftmarket.com
 
Chalk 154720 640
วิธีดูแลแบตเตอรี่

“แบตเตอรี่” รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า มีวิธีดูแลอย่างไร?

การดูแลแบตเตอรี่รถโฟล์คลิฟท์นั้น มีดังต่อไปนี้
⚡️1.ชาร์จแบตเตอรี่เมื่อใกล้หมด
แบตเตอรี่ของรถ ก็เหมือนแบตเตอรี่ของโทรศัพท์ จึงควรที่จะชาร์จเมื่อใกล้จะหมดแล้ว และ ชาร์จต่อเนื่องเป็นเวลา 8 ชั่วโมง จึงจะเป็นการถนอมแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน และ อย่าลืมตรวจสอบว่าปลั๊กของแบตเตอรี่กับตู้ชาร์จแน่นแล้วหรือไม่
⚡️2. ตรวจสอบแบตเตอรี่ก่อนชาร์จ
ก่อนทำการชาร์จแบตเตอรี่ จะต้องมีการตรวจสอบระดับน้ำกลั่น ปลั๊กไฟ และส่วนต่างๆก่อนเสมอ เพราะถ้าหากอยู่ในสภาพที่ดี ไม่ผิดปกติแต่อย่างใด ไม่ชำรุด ก็สามารถชาร์จได้ตามปกติ แต่หากมีความผิดปกติ ก็ต้องซ่อมแซมแก้ไขก่อนทำการชาร์จ รวมถึงทำความสะอาด หากขั้วแบตเตอรี่ และผิวของแบตเตอรี่ด้านบนสกปรก หรือมีขี้เกลือเกาะ ให้ทำความสะอาดด้วยน้ำร้อน และเช็ดให้แห้ง
⚡️3.สถานที่ทำการชาร์จ
การชาร์จแบตเตอรี่ ควรจะชาร์จในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี เพราะเมื่อขณะที่เราทำการชาร์จ น้ำกลั่นก็จะระเหยออกมาด้วย
⚡️4.เรียกช่างมาตรวจเช็คเป็นประจำ
ควรให้ช่างผู้ชำนาญการ มาตรวจเช็คค่าถ่วงจำเพาะ เพราะแรงดันของเซลล์แบตเตอรี่แต่ละเซลล์จะมีค่าแรงดันที่เป็นมาตรฐานอยู่ ให้ตรวจสอบว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่ อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง

แม้ว่าแบตเตอรี่จะมีการดูแลในหลายๆด้าน แต่ก็ยังคงสะดวกสบายกว่า การดูแลระบบเครื่องยนต์ และยังช่วยประหยัดค่าน้ำมันเชื้อเพลงไปได้มาก เพียงแต่ต้องใส่ใจดูแลแบตเตอรี่ของรถโฟล์คลิฟท์ในระบบไฟฟ้าให้ดีเท่านั้น นอกจากนี้ยังเป็นการยืดอายุการใช้งาน และ ยังช่วยให้ปลอดภัยในการใช้งานมากขึ้นอีกด้วยครับ

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก Cr : thaiforkliftmarket.com

 
Chalk 154720 640

ข้อแตกต่างของรถโฟล์คลิฟท์ดีเซล⛽️ VS รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า ⚡

1⃣ ด้านความคุ้มค่า
รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ามีอัตราการสิ้นเปลืองที่น้อยกว่ารถโฟล์คลิฟท์ดีเซลอยู่ที่ประมาณ 5 เท่าเลยทีเดียว นอกจากนี้รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าก็ยังมีค่าบำรุงรักษาที่น้อยกว่า เนื่องจากมีมอเตอร์น้อยกว่ารถโฟล์คลิฟท์ดีเซล
 
2⃣ ด้านระยะเวลาในการใช้งาน
รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ามีระยะเวลาในการใช้งานที่ยาวนานกว่ารถโฟล์คลิฟท์ดีเซล โดยสามารถใช้งานได้นานติดต่อกันสูงสุดถึง 8 ชั่วโมง โดยที่ไม่ต้องชาร์จประจุไฟใหม่ และรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ามีระยะเวลาพักชาร์จอยู่ที่ราว ๆ 2 ชั่วโมงเท่านั้น เพราะฉะนั้นแล้ว หากมีการบริหารจัดการเวลาในการใช้งานรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าที่ดี ก็จะทำให้สามารถใช้งานรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าได้ถึง 3 กะ หรือ 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว
 
3⃣ ด้านสมรรถนะในการใช้งาน
เนื่องด้วยข้อจำกัดในด้านของระบบไฟฟ้า ที่อาจได้รับผลกระทบหรือเกิดความเสียหาย เมื่อต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนชื้น มีฝนตก หรือหนาวเย็น ส่งผลให้รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าจึงเหมาะสำหรับการนำใช้งานในร่มหรือภายในตัวอาคารที่มีพื้นที่จำกัด ในขณะที่รถโฟล์คลิฟท์ดีเซลซึ่งมีเครื่องยนต์สมรรถนะแรงสูงนั้น จะเหมาะสำหรับการใช้งานหนักในพื้นที่กลางแจ้ง เพื่อรองรับกับการขน-ยกย้ายได้อย่างต่อเนื่องและยาวนานมากกว่า
 
4⃣ ด้านความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนฟอสเฟส (Lithium Iron Phosphate / LiFePO4) ที่มีจุดเด่นในด้านของการไม่ก่อให้เกิดฝุ่นควันหรือมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะแตกต่างไปจากรถโฟล์คลิฟท์ดีเซลที่อาจก่อให้เกิดควัน หรือไอเสียจากการเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิงได้
 
5⃣ ด้านการนำมาใช้งานในอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ
โดยส่วนใหญ่แล้วรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าจะเหมาะสำหรับการนำมาใช้งานภายในร่มหรือตัวอาคารเพื่อการช่วยยก–เคลื่อนย้ายสินค้าในพื้นที่จำกัด ยกตัวอย่างเช่น ภายในศูนย์กระจายสินค้า คลังสินค้า โกดังสินค้า หรือห้างสรรพสินค้า เป็นต้น ในขณะที่รถโฟล์คลิฟท์ดีเซลจะสามารถใช้งานได้ดีในอุตสาหกรรมหนักท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้น มีฝุ่น หรืออยู่กลางแจ้ง ยกตัวอย่างเช่น ท่าเรือ อู่ต่อเรือ ไซต์งานก่อสร้าง หรือโกดังสินค้ากลางแจ้ง เป็นต้น
337273
Chalk 154720 640

การเช่ารถโฟล์คลิฟท์ดีอย่างไร❓❔

เป็นโจทย์ที่ผู้ประกอบการมักจะต้องคิดอยู่เสมอ ว่าแบบไหนจะคุ้มค่าต่อการลงทุนมากกว่ากัน รวมถึงเหตุผลอื่นๆที่จะสามารถทำให้ทราบว่าการเช่ารถโฟล์คลิฟท์จะตอบโจทย์มากกว่า วันนี้เราจึงจัดทำบทความนี้ขึ้นมาเพื่อให้ทุกท่านได้ทราบข้อดีของการเช่ารถโฟล์คลิฟท์กันครับ 🤗
1️⃣ รองรับการเปลี่ยนแปลงของบริษัท👉 หากบริษัทของคุณมีแนวโน้มที่จะปรับขนาดขึ้น หรือ ลดขนาดลงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า การเช่ารถโฟล์คลิฟท์นั้นจะค่อนข้างตอบโจทย์กับบริษัทของคุณมากกว่าการซื้อ คุณสามารถปรับเปลี่ยน ลดจำนวน หรือเพิ่มจำนวนได้ภายใต้สัญญาเช่า ซึ่งส่วนนี้จะช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินต่อไปได้ง่ายกว่าการทุ่มเงินก้อนใหญ่ซื้อรถโฟล์คลิฟท์ ที่เดียวหลายๆคัน 🚜💨
 
2️⃣ รักษาสภาพคล่องของบริษัท👉 หากคุณกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ธุรกิจของคุณยังไม่คืนกำไร💸 การลงทุนซื้อรถโฟล์คลิฟท์อาจจะทำให้เงินทุนในธุรกิจของคุณ มีสภาพคล่องที่แย่ลง ซึ่งหลายต่อหลายครั้ง ปัญหานี้ทำให้ธุรกิจสะดุดอย่างฉับพลัน โดยเฉพาะธุรกิจที่เริ่มต้นใหม่ การเช่ารถโฟล์คลิฟท์ จึงมีความยืดหยุ่นกว่า และเหมาะแก่การปรับเปลี่ยนแผนตามสถานการณ์ของบริษัทในช่วงเวลานั้นๆ
 
3️⃣ สัญญาเช่าที่ยืดหยุ่น👉 การเช่ารถโฟล์คลิฟท์ นั้นจัดเป็นการบริหารความเสี่ยงที่มีความยืดหยุ่น คุณสามารถสร้างความลงตัวสำหรับการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ ตัวอย่างเช่น หากรถโฟล์คลิฟท์ที่คุณเช่ามีปัญหาระหว่าง การเช่ารถโฟล์คลิฟท์ คุณสามารถขอเปลี่ยนรถโฟล์คลิฟท์คันใหม่ในระหว่างสัญญาได้📑 หากมีปัญหา ที่รุนแรง และยังอยู่ในเงื่อนไขสัญญา หรือการปรับเปลี่ยนเพิ่มหรือลดบางอย่างในสัญญาเช่าในปีต่อไปๆ ตามสถานการณ์และความสะดวกของกิจการได้
 
4️⃣ เพื่อทดลองใช้งานและทดสอบเทคโนโลยีก่อนซื้อ👉 การเช่ารถโฟล์คลิฟท์ จะช่วยให้ธุรกิจของคุณได้รับประโยชน์จากประสิทธิภาพสูงสุดของเทคโนโลยีแบบใหม่ 🏗 (รถโฟล์คลิฟท์รุ่นใหม่ เช่น รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า) โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก โดยเฉพาะหากธุรกิจอยู่ในช่วงเริ่มต้น การซื้อก็เป็นการเพิ่มต้นทุนที่ไม่จำเป็นได้ เพราะฉะนั้น การเช่ารถโฟล์คลิฟท์ ช่วยให้เราได้ทดลองและเลือกใช้งานเทคโนโลยีแบบต่าง ๆ ซึ่งอาจจะช่วยให้เราเลือกซื้อรถโฟล์คลิฟท์ได้ง่ายขึ้นในอนาคตครับ 🥰
4 เหตุผล
Chalk 154720 640

😄 ส่วนใหญ่รถโฟล์คลิฟท์ถูกใช้งานอย่างต่อเนื่อง ใช้สำหรับเคลื่อนย้ายของ ยกของหนัก ดังนั้น เราควรหมั่นดูแลรักษา และได้รับการตรวจเช็คอย่างถูกวิธี ทำให้สามารถยืดอายุการใช้งานโฟล์คลิฟท์ได้นานยิ่งขึ้น และยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในขณะใช้งานรถโฟล์คลิฟท์อีกด้วย🚧

ซึ่งทางบริษัท นครปฐม โฟร์คลิฟท์ (888) จำกัด ของเรา ก็มีบริการซ่อมบำรุงดูแลรักษา (PM) โดยทีมช่างผู้ชำนาญการ โดยมีรายการที่ต้องทำการตรวจสอบให้ลูกค้าอย่างครอบคลุม รวมทั้งสิ้น 30 รายการ‼ โดยมีหัวข้อหลักๆ ดังต่อไปนี้เลย👉

1
2
✔ รายการซ่อมบำรุงดูแลรักษา (PM) สำหรับรถโฟล์คลิฟท์ดีเซลและเบนซิล ⛽
📌 WIRING & STARTER : ระบบไฟ / ระบบระบายความร้อน / ของเหลว+กรอง / การทำงานของเครื่องยนต์ / แบตเตอรี่ / ฯลฯ
📌 TRASMISSION : ระบบเกียร์ / ระบบเบรค
📌 HYDRAULIC SYSTEM : ระบบไฮดรอลิค
📌 POWER STEERING : ระบบบังคับเลี้ยว / คานหลัง / ลูกหมากต่างๆ / สภาพยาง / กะทะล้อ / ฯลฯ
📌 MAST & FORK : เสา / งา / โซ่ / ฯลฯ
📌 GAS SYSTEM : ระบบแก๊สทั้งหมด
📌 OTHERS : อื่นๆ เช่น สภาพตัวรถ ฯลฯ
 
✔ รายการซ่อมบำรุงดูแลรักษา (PM) สำหรับรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า (นั่งขับและยืนขับ) ⚡
📌 BATTERY : ระบบแบตเตอรี่
📌 TRAVEL SYSTEM : แผงควบคุม / คอนแทคเตอร์ / มอเตอร์ต่างๆ / หน้าปัทม์ อุปกรณ์ต่างๆ ฟิวส์
📌 HYDRAULIC SYSTEM : ระบบไฮดรอลิค
📌 TRASMISSION : ระบบเบรค / เพลาบังคับเลี้ยว / คานหลัง / ลูกหมากต่างๆ / สภาพยาง / กะทะล้อ / ฯลฯ
📌 MAST, FORK & OTHERS : เสา / งา / โซ่ / ระบบไฟ-ดวงไฟ / คันบังคับต่างๆ / ตู้ชาร์จ-ปลั๊ก / สภาพตัวรถ
แม้มีการกำหนดชั่วโมงสำหรับการซ่อมบำรุง แต่สภาพการทำงานรถที่ใช้งานต่างกันย่อมส่งผลให้ถึงระยะชั่วโมงที่แตกต่างกัน ซึ่งโฟล์คลิฟท์แต่ละคันจะต้องมีการประเมินเฉพาะจากสภาพแวดล้อมการทำงาน เมื่อใช้งานจนถึงระยะเวลาที่กำหนดต้องเข้ารับการตรวจเช็คสภาพและเปลี่ยนอะไหล่ทันที เพื่อป้องกันโอกาสที่อาจเกิดการชำรุดในอนาคตนะครับ 😊
Chalk 154720 640

👍ข้อดี-ข้อเสีย👎 ของ Reach Truck

(รถยกไฟฟ้าแบบยืนขับ)

 
✔ ข้อดีของ Reach Truck (เมื่อเทียบกับโฟล์คลิฟท์ทั่วไป)
1. ขนาดเล็ก ใช้งานในพื้นที่แคบได้ดีกว่ารถโฟล์คลิฟท์
2. ยกสูงได้มากกว่ารถโฟล์คลิฟท์ (เมื่อเทียบกับบางรุ่นที่ราคาพอ ๆ กัน)
3. ขับง่าย ไม่ต้องออกแรงเยอะ ควบคุมง่ายกว่ารถโฟล์คลิฟท์
4. ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ไม่ปล่อยควันที่เป็นมลพิษ ไม่ต้องเติมน้ำมันและไม่มีเสียงดังรบกวน
 
❌ ข้อเสียของ Reach Truck (เมื่อเทียบกับรถโฟล์คลิฟท์ทั่วไป)
1. ไม่เหมาะกับการใช้ภายนอกอาคาร
2. รับน้ำหนักได้น้อยกว่ารถโฟล์คลิฟท์
3. ต้องชาร์จแบตเตอรี่ทุกครั้งหลังเลิกใช้งาน
4. ไม่เหมาะกับการใช้งาน 24 ชั่วโมง
Table Facebook Post 2
Chalk 154720 640
Warehouse Background

“รถโฟล์คลิฟท์” แต่ละประเภท เหมาะกับการใช้งานแบบไหน❓❔

1️⃣ รถโฟล์คลิฟท์ดีเซล

✔️ ข้อดี :
⚙️ ซ่อมบำรุงง่าย เนื่องจากเครื่องยนต์จะเหมือนกับเครื่องยนต์ดีเซลของรถทั่วๆไป
🔩 อะไหล่หาง่าย เนื่องจากมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย และเป็นที่นิยม
❄️ ทนต่อความร้อนและความเย็นมากที่สุดในบรรดาทั้ง 3 ระบบ
☀️ สามารถทำงานกลางแจ้งได้
❌ ข้อเสีย :
💨 มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม คือ รถโฟล์คลิฟท์ดีเซลจะมีเสียงดังและมีเขม่าควันออกมามาก ซึ่งไม่เหมาะกับการทำงานในอาคารหรือที่ๆต้องการรักษาด้านความสะอาดเป็นพิเศษ
💵 มีต้นทุนด้านเชื้อเพลิงสูงกว่ารถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า
 
เหมาะกับงานแบบไหน❓
รถโฟล์คลิฟท์ดีเซล เหมาะสำหรับการทำงานในทุกสภาพการทำงาน ยกเว้นแต่เป็นสถานที่ ๆ ต้องการความสะอาด หรือรักษาสภาพแวดล้อมเป็นพิเศษ เนื่องจากโฟล์คลิฟท์ดีเซลมีเสียงดัง และเขม่าควันมาก ในด้านสภาพอากาศประเทศไทยเป็นเมืองร้อน รถประเภทนี้ จึงนิยมใช้ในประเทศไทยมากที่สุด
—————————–

2️⃣ รถโฟล์คลิฟท์เบนซิน/LPG

✔️ ข้อดี :
💸 ราคาต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับโฟล์คลิฟท์ดีเซล และโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า
💨ไอเสียที่ออกมาจากโฟล์คลิฟท์ LPG ค่อนข้างสะอาดกว่าไอเสียที่ออกมาจาโฟล์คลิฟท์ดีเซล
👌 ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานค่อนข้างต่ำ
❌ ข้อเสีย :
🔥 มีความเสี่ยงที่แก๊สจะรั่วไหลออกมาขณะทำการเปลี่ยนถัง หรือขณะทำงาน ซึ่งถือว่าเป็นความเสี่ยงต่อโรงงานในขั้นหนึ่ง
🔩 รถโฟล์คลิฟท์แก๊สค่อนข้างสตาร์ทติดยาก และการบำรุงรักษาค่อนข้างยุ่งยาก มีปัญหาจุกจิกอยู่บ่อยครั้ง และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสูงที่สุดในโฟล์คลิฟท์ทั้ง 3 ระบบ
👎 วิสัยทัศน์ในการมองเห็นด้านหลังถูกจำกัด เนื่องจากมีถังแก๊ส LPG วางอยู่
⛽️ เชื้อเพลิง LPG ค่อนข้างหาได้ยากกว่า ไฟฟ้าและดีเซล ในสถานที่ห่างไกล
 
เหมาะกับงานแบบไหน❓
ถ้าการทำงานของคุณทำงานหนัก ๆ และต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนเชื้อเพลิง รถโฟล์คลิฟท์ชนิดนี้เหมาะกับคุณ แต่ควรจะมีช่างซ่อมบำรุงไว้แก้ไขปัญหาจุกจิกที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งกับโฟล์คลิฟท์ประเภทนี้
—————————–

3️⃣ รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า

✔️ ข้อดี :
⚡️ ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมด้านการทำงานดี คือ เสียงเงียบ ไม่มีเขม่าควัน ไร้มลพิษ ดีต่อสุขภาพของพนักงาน
💸 ไม่มีค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิง
🚛 เลี้ยวในวงแคบ ๆ ได้ดีกว่ารถน้ำมัน
⛑ ลดความกังวลเรื่องของการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ หรือน้ำในหม้อน้ำ เพราะรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า ไม่มีเครื่องยนต์ และชุดเกียร์
ไม่สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ขณะรอเวลายกสินค้า
❌ ข้อเสีย :
⏱ รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าไม่เหมาะสำหรับการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง (เว้นแต่มีแบตเตอรี่สำรอง)
🎯 ต้องมีการชาร์ตแบตเตอรี่ หลังเลิกใช้งานในทุกวัน
⛈ มีข้อจำกัดด้านสภาพอากาศในการทำงานอยู่มาก เช่น กลางแจ้ง เปียกชื้น หรือเย็นจัด ซึ่งจะส่งผลให้ โฟล์คลิฟท์เสียหายได้ง่ายกว่าชนิดอื่น ๆ
💵 ราคาแพงกว่าโฟล์คลิฟท์ชนิดอื่นๆ
 
เหมาะกับงานแบบไหน❓
รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าเหมาะกับการทำงานในที่ร่ม ทำงานไม่หนักถึงขนาด 24 ชั่วโมง และต้องมีพนักงานคอยดูแลเรื่องการชาร์ตไฟในทุก ๆ วันหลังใช้งาน
Chalk 154720 640
การตรวจสอบรถโฟล์คลิฟท์ก่อนปฏิบัติงาน

การตรวจสอบรถโฟล์คลิฟท์ก่อนปฏิบัติงาน🚫💯

✔ ต้องมีการตรวจสอบรถโฟล์คลิฟท์ทั้งหมด อย่างน้อยวันละ 1 ครั้งก่อนที่จะใช้งาน👌
• การตรวจสอบด้วยสายตาก่อนการปฏิบัติงานด้วยการปิดกุญแจ
• การตรวจสอบการทำงานกับการทำงานของเครื่องยนต์
หากผู้ควบคุมเห็นว่า รถโฟล์คลิฟท์จำเป็นต้องได้รับการซ่อมแซม หรือ รถมีปัญหา จะต้องหยุดการใช้งานทันที 👎
 
⚡️การตรวจสอบก่อนการปฏิบัติงานสำหรับรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า⚡️
ต้องตรวจสอบนอกเหนือจารายการทั่วไป ดังนี้
• สายไฟและขั้วต่อ (มองหาสายไฟที่หลุด หรือชำรุด)
• สภาพภายนอกของแบตเตอรี่เช่น ดูที่ขั้ว สะพานไฟ อยู่ในสภาพสมบูรณ์
• ระดับอิเล็กโทรไลต์ (ใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลที่เหมาะสมเสมอ เช่น หน้ากาก ผ้ากันเปื้อนยางและถุงมือยาง
 
⚡️การตรวจสอบก่อนการปฏิบัติงานสำหรับรถโฟล์คลิฟท์ดีเซล / LPG⚡️
ต้องตรวจสอบนอกเหนือจากรายการทั่วไป ดังนี้

• ถังแก๊ส LPG (ตรวจสอบว่าได้ติดตั้งอย่างถูกต้อง ตรวจสอบรอยบุบและรอยแตก)

• วาล์วระบายแรงดัน (ต้องชี้ขึ้น)          • ขายึดถังน้ำมัน
• น้ำมันเครื่อง                              • กระปุกเบรค
• น้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์                   • กรองอากาศ
• สายพานและท่อ                           • หม้อน้ำ
Chalk 154720 640

 

🚫 5 อันตรายจากการใช้รถโฟล์คลิฟท์ ที่ควรรู้! 🚫

🛟 – อันตรายจากการยกสินค้าสูงเกินกำหนด อาจทำให้สินค้าหล่นทับคนขับรถหรือผู้ปฏิบัติงานที่อยู่บริเวณนั้น
🛟 – โฟล์คลิฟท์พลิกคว่ำ เมื่อขับรถเร็วหรือน้ำหนักไม่สมดุล
🛟 – ผู้ปฏิบัติงานอาจตกจากที่สูงหากขึ้นไปยืนบนงาของรถยก
🛟 – คนขับรถยกมองไม่เห็นผู้ปฏิบัติงานที่เดินอยู่ ทำให้เกิดการชน หรือ ทับจนอาจเสียชีวิตได้
🛟 – ไม่มีการกำหนดเส้นทางของรถยกหรือมีแต่ไม่เหมาะสม ทำให้เกิดอุบัติเหตุชนกันได้
5อันตราย จากการใช้รถโฟล์คลิฟท์
Chalk 154720 640
ประเภทของรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า
⚡️รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้านั้นตอบโจทย์และเหมาะกับอุตสาหกรรม องค์กร คลังสินค้าระบบปิดใช้งานในพื้นที่แคบ พื้นที่จำกัด ชั้นวางสินค้าสูง 🚧
อีกทั้งลดปัญหาเรื่องเขม่าควันดำ💨 เสียงที่รบกวน กลิ่นควัน แต่ต้องหมั่นดูแลบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอและผู้ใช้งาน ผู้เกี่ยวข้องต้องมีความเข้าใจ ฝึกฝนผ่านการอบรมมาแล้วนะคะ📢 ✔ รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า หรือ รถยกไฟฟ้าหลักๆ สามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้😉
 
Electric Forklift Counterbalance รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าแบบนั่งขับ💨
🛴 ลักษณะรูปทรงจะเหมือนรถโฟล์คลิฟท์น้ำมัน เป็นแบบนั่งขับมีน้ำหนักถ่วงท้ายข้างหลัง เพื่อสามารถยกของหนักๆ ซึ่งน้ำหนักที่ถ่วงท้ายจะมีด้วยกันหลากหลาย เช่น 1.5 ตัน 2.5 ตัน 3.0 ตัน 3.5 ตัน
 
Electric Hand Pallet รถลากพาเลทไฟฟ้า💨
🛴 หากการใช้งานไม่ได้ลากเดินไกลๆ เคลื่อนย้ายของหนักๆ แนะนำเป็นรถลากพาเลทแมนนวล แต่สำหรับการใช้งานหนักการใช้รถลากพาเลทไฟฟ้าจะสามารถทำให้การทำงานสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพกว่า มีรับน้ำหนักทั้ง 1.5 ตัน 2.0 ตัน เป็นแบบ semi ลากเดินใช้ระบบไฟฟ้า ยกขึ้น-ลงใช้แรงโยกซึ่งไม่ยุ่งยาก หรือถ้าเป็นแบบ full จะใช้แบตเตอรี่ลิเธียม (Lithium Battery) จะใช้งานได้ต่อเนื่องกว่าแบบทั่วไป
 
Electric Stacker รถยกสูงไฟฟ้า รถยกไฮดรอลิคไฟฟ้า💨
🛴 ประเภทนี้ลักษณะเป็นขายื่นออกไปข้างหน้าคอยรองรับน้ำหนัก ทำให้ไม่มีความจำเป็นต้องมีน้ำหนักถ่วงท้าย สามารถเคลื่อนที่วงเลี้ยวแคบได้ การใช้งานทาง 2 เมตร 2.5 เมตรก็เพียงพอ ต่างกับรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าแบบยืนขับ Electric Forklift Counterbalance ที่ต้องการวงเลี้ยวอย่างน้อย 4.5 เมตรขึ้นไป แต่รถยกสูงไฟฟ้าความสามารถในการรับน้ำหนักได้ไม่มาก
 
Electric Reach Truck รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าแบบยืนขับและแบบนั่งขับ💨
🛴 นิยมใช้ในโกดัง คลังสินค้าโรงงานที่มีชั้นวางสินค้าจำนวนมากติดๆ กันต้องการประหยัดพื้นที่มีพื้นที่จำกัด หรือพื้นที่ช่องทางแคบ (Narrow Aisle)
Electric Reach Truck รถยกไฟฟ้า Electric Forklift Truck
ลักษณะของ Electric Reach Truck จะมีงาที่ยืดออกไปข้างหน้าและหดกลับเข้ามาได้ ทำให้พื้นที่ไม่จำเป็นต้องมากก็สามารถใช้งานได้ วงเลี้ยวน้อย เหมาะกับพื้นที่ที่มีชั้นวางเหล็ก (Racking) ชั้นวางสูงๆ มากกว่า 3 เมตรก็สามารถปฏิบัติได้ ซึ่งชั้นวางเหล็กที่วางห่างกันแค่ 2.6 – 3.0 เมตร รถโฟล์คลิฟท์ทั่วไปจะไม่สามารถใช้งานได้
Chalk 154720 640
306567743 505970591532843 5007687255501800798 N

✅ 5 ประการที่คุณควรเปลี่ยนรถโฟล์คลิฟท์ใหม่ ✅

🤟 1. ค่าบำรุงรักษายังคงเพิ่มขึ้น
เมื่ออายุรถโฟล์คลิฟท์มากขึ้น ค่าใช้จ่ายก็จะสูงขึ้น
🤟 2. ประสบกับสภาวะที่รุนแรงขึ้น
หากโดนสารเคมีกัดกร่อนหรือสารกัดกร่อน เครื่องจะเสื่อมสภาพเร็วขึ้น รถโฟล์คลิฟท์ที่ทำงานในสภาวะที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด อาจได้รับผลกระทบก่อนเวลาอันควร
🤟 3. ความผิดปกติที่เป็นอันตรายเกิดขึ้น
อย่ามองข้ามประเภทของการพัง เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร ที่ไม่เพียงสร้างความเสียหายให้กับตัวเครื่องเท่านั้น แต่ยังอาจอันตรายต่อพนักงานอีกด้วย
🤟 4. เทคโนโลยีได้รับการปรับปรุง
การอัพเกรดเป็นรถโฟล์คลิฟท์ที่ใช้เทคโนโลยีแบบไฟฟ้าทั้งหมด สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้านก๊าซหรือดีเซลได้อย่างมาก
🤟 5. รถโฟล์คลิฟท์คิดค่าเสื่อมราคา
รถโฟล์คลิฟท์ส่วนใหญ่จะคิดค่าเสื่อมราคา หลังจาก 5 ปี ณ จุดนี้ คุณอาจได้รับการลดหย่อนภาษีที่มากขึ้นจากการซื้อรถโฟล์คลิฟท์รุ่นใหม่ มากกว่าการเทเงินลงในรุ่นเก่านั่นเอง
Chalk 154720 640
Collage

💡เทคนิคดูแลเครื่องยนต์โฟล์คลิฟท์มือสองที่คุณควรรู้💯

✔ สำหรับรถโฟล์คลิฟท์ “เครื่องยนต์โฟล์คลิฟท์มือสอง” ก็ไม่ต่างอะไรจาก “ระบบภายในของร่างกายมนุษย์” หากเกิดความผิดปกติเกิดขึ้นในระบบนี้ อาจทำให้รถโฟล์คลิฟท์ของคุณทำงานได้ไม่ปกติ หรืออาจอยู่ในกรณีที่ร้ายแรงคือการที่ไม่สามารถใช้งานได้เลย🚫🚧
ดังนั้น เทคนิคการดูแลที่เราอยากแนะนำมีดังต่อไปนี้

📌 1. หมั่นตรวจสอบของเหลวสำคัญของเครื่องยนต์โฟล์คลิฟท์มือสองอยู่เสมอ เช่น น้ำมันเครื่อง,น้ำมันเชื้อเพลิง ทุกอย่างต้องอยู่ระดับที่มาตรฐานกำหนดเอาไว้เท่านั้น
📌 2. ฟังเสียงเครื่องยนต์โฟล์คลิฟท์มือสองในช่วงเวลาก่อนใช้งานและก่อนเลิกใช้งานทุกครั้ง หากมีเสียงผิดปกติต้องรีบหาต้นตอของเสียงนั้น และแก้ไขโดยทันที
📌 3. ตรวจสอบระบบสายพานของเครื่องยนต์โฟล์คลิฟท์มือสองอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรปล่อยให้ตึงหรือหย่อนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายระหว่างการใช้งานได้
 
⚠️เพียงเท่านี้ เครื่องยนต์โฟล์คลิฟท์มือสองจะอยู่กับคุณไปอีกนาน หากคุณดูแลอย่างถูกต้องนะคะ 🥰
Chalk 154720 640
Warehouse Interior Logistics Cargo Delivery 107791 1777

✖ ความผิดปกติที่ต้องเร่งแก้ไขในขณะใช้รถโฟล์คลิฟท์ 🔧

 
🚧 หน้าปัดรถหรือเกจ์วัดต่างๆ ไม่ทำงาน
แม้ว่าตัวรถจะยังทำงานได้ปกติ แต่หากหน้าปัด หรือเกวัดต่างๆ ไม่ทำงาน ก็อาจเกิดอันตรายขึ้นได้ เนื่องจากเราไม่ทราบว่าเริ่มมีจุดใดทำงานผิดปกติหรือไม่ จึงควรได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว
🚧 ไฟเลี้ยว เสียงสัญญาณเตือนไม่ทำงาน
หากไฟเลี้ยว หรือเสียงสัญญาณเตือนถอยหลัง เตือนต่างๆ ไม่ทำงาน อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ เพราะสิ่งเหล่านี้มีไว้เพื่อเตือนภัยให้คนรอบข้าง และผู้ร่วมงานด้วย
🚧 เบรกไม่ค่อยอยู่
เบรก เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก ดังนั้น หากเบรกไม่ค่อยอยู่ หรือเบรกไม่ได้อย่างใจ ควรรีบแจ้งเพื่อทำการแก้ไขโดยด่วน เพราะหากใช้งานต่อไปอาจเกิดอันตรายต่อผู้ใช้งาน ผู้ร่วมงาน และทรัพย์สินได้
 
🚫 นอกจากนี้ หากเครื่องยนต์มีเสียงดังผิดปกติ ก็ควรรีบแก้ไขเช่นกัน รถโฟล์คลิฟท์เป็นสิ่งที่อันตราย หากใช้งานอย่างไม่เหมาะสม ดังนั้น ก่อนและหลังการใช้งาน ควรมีการตรวจเช็คและซ่อมบำรุงให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอ
 

🙏ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก www.eternalsystem.co.th

 
Chalk 154720 640
สีน้ำตาล สีครีม มินิมอล โปรโมชั่น 9.9 อินสตาแกรมโพสต์

การซ่อมบำรุงรถโฟล์คลิฟท์ ต้องทำบ่อยแค่ไหน❓

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจและกำหนด “ความถี่” ในการตรวจสอบดูแลและซ่อมบำรุง ✔มีสิ่งที่ต้องพิจารณาดังต่อไปนี้✔
📌 ชั่วโมงการใช้งาน :
หากต้องใช้งานบ่อยหรือต่อเนื่อง ย่อมต้องตรวจซ่อมบำรุงบ่อย
📌 ลักษณะการใช้งานประจำ :
เช่น ปริมาณของหนักที่ต้องยก ส่วนใหญ่ยกขึ้นที่สูง หรือใช้เคลื่อนย้าย เป็นต้น ความถี่ในการตรวจสอบเฉพาะจุดอาจต่างกันไป
📌 อายุและสภาพเครื่องยนต์กลไก อะไหล่ต่าง ๆ :
ความเก่าใหม่ มีผลต่อการสึกหรอ สมรรถนะและความปลอดภัย ยิ่งอายุการใช้งานนานยิ่งจำเป็นต้องใส่ในใจการตรวจสอบมากยิ่งขึ้น
📌 ประวัติการซ่อมบำรุง :
รถยกที่มีประวัติ ชำรุดเสียหายย่อมต้องได้รับการตรวจสอบที่มากขึ้น
การตรวจสอบซ่อมบำรุงรถโฟล์คลิฟท์ต้องทำเป็นประจำ ทั้งรายวัน ก่อน-หลังการใช้งาน รายเดือนและรายรอบ เช่น ทุก 3 เดือน 6 เดือนหรือรายปี
🚧 วิธีการดูแลรถยกให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งที่ต้องทำประจำ คือ
🔧 การตรวจสอบรายวัน
ทั้งก่อนและหลังการใช้งาน เช่น การรั่วไหลของเชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่น สภาพยาง ระบบไฮดรอลิก ระบบเบรคและการบังคับทิศทาง เป็นต้น
🔧 การตรวจสอบรายเดือน
เป็นการตรวจสอบที่ละเอียดขึ้น เช่น การตรวจหารอยแตกหัก รอบการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง การทดสอบความยืดหยุ่นของสายรัด กลไกการทำงานต่าง ๆ การตรวจสอบระบบไฟฟ้าและแบตเตอรี่ เป็นต้น
🔧 การตรวจสอบรายรอบ
ขึ้นกับความจำเป็นในแต่ละจุดที่ต้องตรวจสอบเป็นพิเศษ ควรมีช่างหรือบริษัทผู้ชำนาญการให้คำแนะนำในรายละเอียดและแผนการตรวจสอบ เช่น การตรวจสอบระบบโครงสร้างรถ การทำความสะอาดและตรวจสภาพรถโดยละเอียด การปรับจูนเครื่องมือและอุปกรณ์ในแต่ละระบบ เป็นต้น
..
Cr. ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก goodrichforklift999.com
 
Chalk 154720 640

🚫🤔 4 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการขับโฟล์คลิฟท์ ที่คุณต้องรู้! 🤔🚫

👻 ข้อที่ 1 : ต้องมีใบขับขี่ ถึงจะขับรถโฟล์คลิฟท์ได้ 👻
ข้อนี้ไม่จริงเลย❌ อาจฟังดูแปลก แต่คุณไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตพิเศษใดๆ เพื่อใช้งานรถโฟล์คลิฟท์ ซึ่งรวมถึงไม่ต้องมีใบขับขี่ด้วย ดังนั้นแม้ว่าคุณจะขับรถไม่ได้ คุณก็ยังสมัครเป็นพนักงานขับรถโฟล์คลิฟท์ได้ เพียงแต่ว่าคุณต้องผ่านการฝึกอบรมตามหลักสูตรที่อธิบดีประกาศกำหนด❗️
👻 ข้อที่ 2 : การขับรถโฟล์คลิฟท์ก็เหมือนการขับรถ 👻
รถโฟล์คลิฟท์มีสี่ล้อและใช้เครื่องยนต์ในการทำงาน ดังนั้นมันคงจะเหมือนกับการขับรถยนต์ ใช่หรือไม่? คำตอบคือไม่! ❌ และสิ่งนี้คือเหตุผลสำคัญที่คุณต้องเข้าร่วมหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อเรียนรู้รายละเอียดเกี่ยวกับการทำงานของรถโฟล์คลิฟท์ เนื่องจากรถโฟล์คลิฟท์ใช้ล้อหลังในการบังคับทิศทางไม่เหมือนรถประเภทอื่นๆ ซึ่งหมายความว่าพวกมันนั้นแตกต่างไปจากรถยนต์ รถตู้ หรือรถบรรทุกที่คุณขับ หากรถโฟล์คลิฟท์ถูกขับไม่ถูกต้อง อาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือการบาดเจ็บเพิ่มขึ้นแก่ผู้ขับและผู้คนบริเวณนั้นได้
👻 ข้อที่ 3 : การฝึกอบรมขับโฟล์คลิฟท์เป็นเพียงการเรียนรู้ที่จะขับเคลื่อนไปข้างหน้า 👻
แม้ว่าคุณจะได้เรียนรู้วิธีขับรถโฟล์คลิฟท์ไปข้างหน้าอย่างปลอดภัย แต่นั่นยังไม่ใช่หลักสูตรการฝึกอบรมทั้งหมด❌ คุณจะพบว่าการฝึกอบรมส่วนใหญ่มักใช้เวลาไปกับการขับรถถอยหลัง และความปลอดภัยในส่วนต่างๆ จะช่วยให้คุณเคลื่อนย้ายไปมาในโกดังได้อย่างปลอดภัย รวมถึงทราบวิธีการตรวจสอบความปลอดภัยที่จำเป็นก่อนปีนขึ้นไปบนที่นั่งคนขับ
👻 ข้อที่ 4 : การฝึกอบรมการขับโฟล์คลิฟท์ใช้เวลานาน 👻
แม้จะมีองค์ประกอบมากมายในการฝึกขับรถโฟล์คลิฟท์ แต่หลักสูตรปฏิบัติก็สามารถทำได้ในเวลาเพียงไม่นาน ครอบคลุมทฤษฎี เทคนิค และความปลอดภัย ก่อนที่จะเน้นไปที่การปฏิบัติ
 
✅ ซึ่งบริษัท นครปฐม โฟร์คลิฟท์ (888) จำกัด มีเปิดรับการฝึกอบรมทุกปี โดยเปิดรับเป็นรอบๆ (รอบละจำนวนจำกัด) ใช้เวลาการฝึกอบรมเพียง 1 วันเท่านั้น!! ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมจะได้รับวุฒิบัตรรับรองอย่างถูกต้อง 😊
สีน้ำเงิน สีขาว สีเหลือง สนุกสนาน สุขสันต์วันแม่ Instagram Post
Chalk 154720 640
คอนเท้นดูแลยาง Nfl

♻️✅ วิธียืดอายุยางรถโฟล์คลิฟท์ให้ใช้งานได้นานยิ่งขึ้น ♻️✅

🛟 ผู้ใช้งานต้องรู้ว่ายางชนิดใดที่เหมาะสมกับงานของเรา
🛟 ผู้ใช้งานต้องได้รับการฝึกอบรมการขับรถโฟล์คลิฟท์ที่ได้มาตรฐานและถูกต้อง เพราะ พฤติกรรมการขับรถของผู้ใช้งานเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
🛟 ผู้ใช้งานควรตรวจสอบยางรถโฟล์คลิฟท์อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อสังเกตสัญญาณความเสียหายในระยะแรก
🛟 ผู้ใช้งานต้องตรวจสอบแรงดันอากาศของยางลมก่อนใช้งานในแต่ละครั้ง ลมยางที่เติมมากเกินไปอาจทำให้เกิดการระเบิด และยางที่เติมลมต่ำเกินไปทำให้เกิดการยึดเกาะที่ไม่ดีและส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้
🛟 ใช้สารหล่อลื่นอย่างสม่ำเสมอ การดูแลระบบกำลังและระบบเบรกอย่างถูกต้อง จะช่วยลดการลากของยางและการหยุดกะทันหันอันเนื่องมาจากสารหล่อลื่น และควรหลีกเลี่ยงการหล่อลื่นมากเกินไป เนื่องจากไขมันและน้ำมันที่มากเกินไปจะเป็นอันตรายต่อยางล้อของคุณ
🛟 หลีกเลี่ยงการบรรทุกสินค้าไว้ตลอดเวลา และการบรรทุกเกินพิกัด
🛟 หลีกเลี่ยงการวิ่งยางทับน้ำมันหรือจารบี เนื่องจากรถโฟล์คลิฟท์ในร่มแบบดั้งเดิม ส่วนใหญ่มีดอกยางที่เรียบ การเติมจารบีหรือน้ำมันระหว่างยางกับพื้น อาจก่อให้รถลื่นและเป็นอันตรายได้ หากยางสัมผัสกับวัสดุเหล่านี้ หากพบเจอควรเช็ดออกทันที
 
เพียงเท่านี้ เมื่อยางรถโฟล์คลิฟท์ของคุณได้รับการดูแลอย่างดี✨ ก็จะช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนระยะยาว รวมถึงสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยแก่พนักงานและผู้ใช้งานทุกคนด้วยค่ะ 😊
Chalk 154720 640

ยางรถโฟล์คลิฟท์ มีกี่ประเภท❓❓ แล้วประเภทไหนที่เหมาะกับการใช้งานของเรา ไปดูกัน‼️

 
🛟 ยางตันรถโฟล์คลิฟท์ ดอกเรียบ แบบกันกระแทก (CUSHION TIRES)
– เป็นยางที่ผลิตขึ้นจากวัสดุพิเศษ เหมาะสำหรับการใช้งานในร่มหรือบนพื้นปูน อุตสาหกรรมยาและอาหาร
 
🛟 ยางตันรถโฟล์คลิฟท์ ดอกยางลาย (Pneumatic Tires (Solid)
– ยางประเภทนี้มีความทนทานมาก เหมาะสำหรับอุตสาหกรรม เหล็ก ลานไม้ อุตสาหกรรมบำบัดของเสีย หรือศูนย์รีไซเคิล
 
🛟 ยางรถโฟล์คลิฟท์ แบบสูบลม (Pneumatic Tires (Air Filled)
– ยางชนิดเติมลม เหมาะสำหรับใช้งานในภูมิประเทศที่ขรุขระและกลางแจ้ง ควรใช้ในพื้นที่ที่ปราศจากวัตถุมีคม
 
🤟 รู้แบบนี้แล้ว เราก็สามารถเลือกใช้ยางรถโฟล์คลิฟท์ได้อย่างเหมาะสมกันแล้วนะคะ
 
💙 หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม หรือ สนใจซื้อยางรถโฟล์คลิฟท์ สามารถติดต่อมาที่ บริษัท นครปฐมโฟร์คลิฟท์ (888) จำกัด ได้เลยค่าา..☺️
324754061 482345147382978 4231138749247693294 N
Chalk 154720 640
316807002 572075108255724 7085015764857546597 N

วิธีเลือกรถโฟล์คลิฟท์ เลือกยังไง ลักษณะแบบไหน ให้ใช้งานได้ตรงจุด 😉🫰

☁️ 1.ต้องรู้ข้อมูลพื้นฐานของผู้ใช้งานรถโฟล์คลิฟท์ก่อน เช่น
✔️ นำไปใช้ยกอะไร
✔️ นำไปใช้ยกความสูงที่เท่าไหร่ หรือ ชั้นวางของ (Rack) มีความสูงเท่าไหร่
✔️ นำไปใช้ยกน้ำหนักเท่าไหร่
☁️ 2. ต้องรู้พื้นที่ที่จะใช้งานรถโฟล์คลิฟท์
✔️ เช่น ถ้าพื้นที่ค่อนข้างแคบ หรือมีชั้นวางของ (Rack) ที่สูงๆ ก็จะเน้นเลือกความสูงที่ต้องการเป็นหลัก รถโฟล์คลิฟท์ที่เหมาะจะใช้งานเลย คือ รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ายืนขับ เพราะมีวงเลี้ยวที่ค่อนข้างแคบ
และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ต้องเรียนรู้ข้อแตกต่างระหว่างรถโฟล์คลิฟท์แต่ละประเภทก่อน 👇👇
 
📌 โฟล์คลิฟท์เครื่องยนต์ดีเซล
..ข้อดี ▶ เหมาะกับการใช้งานหนักใช้งานต่อเนื่องทั้งวัน เพราะว่า เครื่องดีเซลทนความร้อนได้สูง การซ่อมก็ไม่ยาก อะไหล่ก็หาไม่ยาก
..ข้อเสีย ▶ ปัญหารถโฟล์คลิฟท์ดีเซล ก็คือ กลิ่นจะเหม็นหน่อยถ้าไปอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก เช่น พวกโกดังปิด, สินค้ามีความ sensitive ต่อกลิ่น พวกอาหาร, เสียงก็อาจจะดังกว่าพวกเครื่องจำพวกอื่นๆ
 
📌 โฟล์คลิฟท์เครื่องยนต์เบนซิน / แก๊ส
..ข้อดี ▶ กรณีใช้งานน้อย สตาร์ทติดๆดับๆ ลูกสูบไม่ค่อยเป็นปัญหาเพราะว่าสามารถเผาไหม้ได้อย่างหมดจดกว่าดีเซลและราคาก็ถูกกว่าดีเซลพอสมควรในแบรนด์ดังๆ
..ข้อเสีย ▶ มีกลิ่นเหม็นน้อยกว่าดีเซล แต่จะทำให้ไม่มีกลิ่นเลยเหมือนกับรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าเลยก็เป็นไปไม่ได้ ต้นทุนเชื้อเพลิงราคาอาจจะสูงกว่าดีเซลนิดหน่อย และในกรณีแก๊ส อาจจะเกิดการรั่วไหลได้ง่ายๆ สตาร์ทติดค่อนข้างยาก เพราะว่าต้องรอให้ได้อุณหภูมิ มีปัญหากับหม้อต้มบ่อยครั้ง
 
📌 โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า
..ข้อดี ▶ ใช้งานง่ายมาก แค่ชาร์จไฟ เสียงเงียบ ดูแลรักษาง่ายแค่เช็คน้ำกลั่น ไม่ต้องมีถังเติมน้ำมัน ไม่ต้องเปลี่ยนกรอง ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนน้อยมากๆ แบตเตอรี่เสียก็สามารรถเปลี่ยนเป็นเซลล์ๆไปได้
..ข้อเสีย ▶ ต้องมี check list หรือ วินัยในการเช็คแบตเตอรี่อย่างถี่ถ้วน มีตารางอย่างชัดเจน มิฉะนั้นแล้ว แบตเตอรี่อาจจะมีปัญหาได้
Chalk 154720 640

🚧 การใช้รถยก (Forklift) อย่างถูกวิธีและปลอดภัย 🚧

📣🚫 สิ่งที่ต้องปฏิบัติ 🚫📣
1⃣ ผู้ขับขี่ต้องเป็นผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมมีใบอนุญาตขับขี่ได้เท่านั้น
2⃣ ต้องมีการตรวจสอบรถยกทุกวัน ก่อนการปฏิบัติงาน หรือพบเหตุผิดปกติให้รายงานผู้ที่รับผิดชอบทันที และห้ามใช้รถที่ผิดปกติ หรือมีลักษณะที่ไม่ปลอดภัยต่อการใช้งาน
3⃣ บรรทุกสิ่งของตามพิกัดที่กำหนด
4⃣ บีบแตรให้สัญญาณทุกครั้งเมื่อเลี้ยว ถอยหลัง ทางข้าม ประตูเข้า-ออก หรือมุมอับ
5⃣ ไม่ขับเร็ว ใช้ความเร็วรถพอเหมาะกับสภาพพื้นผิวถนน น้ำหนักบรรทุก และสภาพบริเวณทำงาน
6⃣ ทำป้ายบอกพิกัดน้ำหนักยก ติดไว้ที่รถยกเห็นได้ชัดเจน
7⃣ ให้มีสัญญาณเสียงหรือแสงไฟเตือนภัยในขณะทำงาน
8⃣ ให้กำหนดเส้นทางและตีเส้นช่องทางเดินรถยกในอาคารหรือบริเวณที่มีการใช้รถยกเป็นประจำ
9⃣ ติดตั้งกระจกนูน หรือวัสดุอื่นที่มีคุณสมบัติคล้ายกันไว้ที่บริเวณทางแยก หรือทางโค้งที่มองไม่เห็นเส้นทางข้างหน้า
 
📣🚫 สิ่งที่ห้ามปฏิบัติ 🚫📣
📌 ห้ามผู้อื่นขึ้นโดยสารบนรถ
📌 ห้ามยื่นแขน ขา ศีรษะ ออกนอกรถขณะขับ
📌 ห้ามขนย้ายสิ่งของที่จัดไม่เป็นระเบียบ
📌 ห้ามออกรถเร็ว หยุดรถ หรือเลี้ยวกะทันหัน
📌 ห้ามขับรถเหยียบของบนพื้นห้ามยืน เดิน หรือทำงานใต้งารถยกที่กำลังทำงาน
📌 ห้ามยกของสูงบังระดับสายตาของผู้ขับ
 
🔧 อ้างอิงจาก : กฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ปั้นจั่น และหม้อน้ำ พ.ศ. ๒๕๕๒
316426993 569732471823321 4942294732014949421 N